โดยคุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม

 

 

ตอนที่แล้ว (ตอนที่ 12 ) เราได้ทราบแล้วว่า หลังจากนักบุญเปาโลกลับใจ แล้วแพร่ธรรมไม่เป็นผล
และอยู่ที่บ้านเกิดเมืองทาร์ซัสเสีย 12 ปี ตอนนี้เรามาพิจารณากันว่า
แล้วที่ว่านักบุญเปาโลเป็นนักแพร่ธรรมผู้ยิ่งใหญ่ต่อคนต่างศาสนาเริ่มต้นกันตอนไหน?

 

 

เราคงต้องเปิดพระคัมภีร์ไปที่หนังสือกิจดารอัครสาวก บทที่ 11 ข้อ 9-26 แล้ว
เราจะพบว่าหลังจากชาวยิวได้เอาหินทุ่มสังฆานุกรสเตเฟนถึงแก่ความตายแล้ว บรรดาคริสตังพากันหวั่นกลัว
และการะจายกันไปตามที่ต่าง ๆ ที่ต่าง ๆ เล่านี้ได้แก่ แคว้นเฟนีเซีย ซึ่งเป็นดินแดนริมเขาดานทะเลเมดิเตอเรเนียน
ทางเหนือของแผ่ดินศักดิ์สิทธิ์ ช่วงระหว่างภูเขาคาริอุส และภูเขาคาร์แมล ระยะทางยาวประมาณ 250 ไมล์ บ้างก็ไปยังเกาะไซปรัส
และเมืองอันทิโอก แคว้นซีเรีย ซึ่งอยู่เหนือสุดของแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ที่อันทิโอกนี้เอง
เมื่อมีคนกลับใจเป็นคริสตังจำนวนมากบรรดาอัครสาวกจึงส่งบาร์นาบัสผู้นี้ ไปยังเมืองอันทิโอก
บาร์นาบัสไปถึงพบว่าที่นั่นมีผู้กลับใจมาเชื่อถึงองค์พระเยซูเจ้าจำนวนมาก สิ่งที่ท่านทำคือ
ท่านไปยังเมืองทาร์ซัส และพาเปาโลมาทีอันทิโอก ให้ทำงานกับคนต่างศาสนาที่กลับใจใหม่ด้วยกัน ปรากฏว่าบังเกิดผลอย่างมาก
และทั้งสองได้ทำงนอยู่ที่อันทิโอก 1 ปีเต็ม ณ ที่อันทิโอกนี้เอง ใครที่เชื่อถึงพระเยซูเจ้า ก็ได้รับการเรียกขานว่า “คริสตชน” เป็นครั้งแรก
นี่เป็นการเปิดหนังสือชีวิตบทใหม่ให้กับนักบุญเปาโลเพราะกลังจากนี้ ท่านกับบาร์นาบัสก็ออกเดินทางแพร่ธรรมไปยังแถบเอเชียน้อย
ได้แก่ แคว้นปิสิเดีย ลิคาโอเนีย ปัมฟีเลีย และกาลาเทีย (กจ 13:13 – 14:28) ด้วยกัน และยังมีครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3
ของท่านนักบุญเปาโลตามมา ซึ่ง 2 ครั้งหลังนี้ แยกกับบาร์นาบัสและท่านเริ่มนำข่าวดีของพระเยซูเจ้า
เข้าไปยังทวีปยุโรปเป็นครั้งแรกเลยทีเดียว

 

 

ใครคือ บาร์นาบัส ผู้มาเปิดประตูชีวิตบทใหม่ให้กับเปาโล ผู้ล้มเหลวในช่วง 12 ปีแรกหลังจากกลับใจ?
ในเมืองอันทิโอกและในพระศาสนจักรยุคแรก จัดบาร์นาบัสเป็นอาจารย์และประกาศก (กจ 13:1)
แต่นั่นหลังจากที่บาร์นาบัส และเปาโลได้ประกาศแพร่ธรรมตลด 1 ปี ที่นั่นแล้ว บาร์นาบัสคนนี้เดิมทีมีชื่อว่า โยเซฟ “บาร์นาบัส”
เป็นฉายาที่บรรดาอัครสาวกเรียกท่าน แปลว่า “บุตรแห่งการให้กำลังใจ”
แสดงว่าบรรดาอัครสาวกต้องคุ้นเคยกับท่านอย่างมาก “บาร์นาบัส”
เป็นชาวเกาะไซปรัส และขายที่ดินของตนเอง นำเงินมามอบแก่บรรดาอัครสาวกเป็นกองกลางของพระศาสนจักร
ในการให้ทานและทำกิจการต่าง ๆ ในยุคนั้น

 

 

มาถึงตรงนี้เราน่าจะได้รู้ว่า พระศาสนจักรยุคแรก ๆ ที่พอจะมีชีวิตชีวามั่นคง น่าจะเป็นที่อันทิโอก แคว้นซีเรีย
และที่กรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งบรรดาอัครสาวกดูแลอยู่ โดยมีนักบุญยากอบผู้น้องของพระเยซูเจ้าเป็นผู้ปกครอง ส่วนที่จะตามมาคือ
พระศาสนจักรเมืองอเล็กซานเดรีย ในอียิปต์ และเมืองเอเฟซัส ในเอเชียน้อยส่วนกรุงโรม จะมาที่หลังพระศาสนจักรเหล่านี้
ในสมัยพระเยซูเจ้าและอัครสาวก ชาวยิวที่กลับใจมาเป็นคริสตชนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวยิวที่อพยพไปทำมาหากินอยู่ตามเมืองใหญ่ ๆ
รอบทะเลเมดิเตอเรเนียน หรือแม้ไกลไปถึงกรุงโรมก็มี อย่าลืมว่าซีมอน ชาวไซรีน บิดาของอเล็กซานเดอร์และรูฟัส (มก 15:21)
ที่มาช่วยพระเยซูเจ้าแบกไม้กางแขน ก็เป็นชาวยิวจากเมืองไซรีน ซึ่งอยู่เลยอเล็กซานเดรีย เลียบไปตามชายฝั่งทวีปแอฟริกาเหนือ
พวกเขาคงมาฉลองปัสกาตามธรรมเนียมที่กรุงเยรูซาเล็ม และมาอยู่ในเหตุการณ์ตรึงกางเขนพระเยซูเจ้าพอดี
เชื่อกันว่ารูฟัส ที่อ้างใน มก 15:21 ลูกของซีมอนชาวไซรีนคนนี้ อาจจะเป็นคนเดียวกับที่นักบุญเปาโลฝากคิดถึงพร้อมแม่ของเขา
ที่นักบุญเปาโลนับถือเหมือนแม่ตนเองในจดหมายของท่านถึงชาวโรม (รม 16:13)

 

 

หวนกลับมายัง “บาร์นาบัส” อีกทีเราคิดว่าพระเป็นเจ้าทรงยิ่งใหญ่และสัพพัญญูญาณ
พระองค์ทรงดลใจให้บรรดาอัครสาวกส่งบาร์นาบัสไปยังเมืองอันทิโอก เพราะบาร์นาบัสกลับกลายเป็นคนที่ไม่หลงลืมนักบุญเปาโล
พาท่านไปพบอัครสาวก เพื่อจะรับรองท่าน (กจ 11:25-26) และยังกลับไปตามท่านที่เมืองทาร์ซัสสู่อันทิโอกด้วย
อะไรทำให้บาร์นาบัสเชื่อว่าต้องให้เปาโลไปแพร่ธรรมยังอันทิโอก บาร์นาบัสคงจะคิดว่า เปาโลเป็นผู้กลับใจใหม่
จะเข้าอกเข้าใจคริสตชนชาวยิว และไม่ใช่ชาวยิวที่กลับใจใหม่เช่นเดียวกัน แต่เราจะหาคนมีวิสัยทัศน์ ใจกว้างขวาง
ให้โอกาสผู้คน และรู้จักมอบงานกับคนที่ใช่เลย เช่นบาร์นาบัสผู้นี้ในสังคมได้อีกไหม โดยเฉพาะในสังคมพระศาสนจักรของเรา
ท่านเป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อพระศาสนจักรเริ่มแรกอย่างมาก

 

 

อย่างไรก็ดี ที่สุดนักบุญเปาโลก็ค้นพบสนามชีวิตของตนเอง ที่พระมอบหมายให้
แต่ท่านสามารถเดินออกไปทางประตูที่บาร์นาบัสมาเปิดประตูชีวิตบานนี้ให้มิใช่หรือ?

 

 

ยังมีคนอีกมากมายในซอกหลืบสังคมที่เราอาศัยอยู่ รอคอยเราผู้มีอำนาจ
และทำใจให้กว้างเปิดประตูชีวิตบานใหม่ ให้แก่เขาเหล่านั้น ได้ค้นพบทงชีวิตของตนเองที่พระทรงเรียกเขามาสำหรับเส้นทางนั้น
(เรื่อง ของบาร์นาบัสมีอยู่ใน กจ 4:36-37/9:27-15:39/ 1คร 9:6/ กท 2:1,9,13/ คส 4:10)

 

อุดมสารรายสัปดาห์

ปีที่ 32 ฉบับที่ 28 ประจำวันที่ 6 - 12 กรกฎาคม 2008